ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีส่วนให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมากถึงประมาณ 40% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและการใช้พลังงานไฟฟ้าในการดำเนินธุรกิจ ด้วยความตระหนักและรับผิดชอบขององค์กร เราจึงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์รายแรกที่มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2593 โดยพิจารณาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามขอบเขตการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ 1, 2 และ 3 สำหรับแนวทางการสร้างความยั่งยืนขั้นพื้นฐานขององค์กร เราเริ่มต้นจากการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่คนของเรา โดยได้จัดให้มีเดือนสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุกปี และฝึกอบรมให้พนักงานทุกคนของเรามีความรู้ความเข้าใจเรื่องความยั่งยืน

ความสำเร็จของเราเกิดจากบุคลากรของเรา ซึ่งพวกเขาได้ดึงศักยภาพในการทำงานมาจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และเอื้อต่อการทำงาน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ทำให้คำจำกัดความของสถานที่ทำงานได้เปลี่ยนไป และข้อจำกัดในการทำงานจากที่บ้านได้ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ทุกวิกฤติคือโอกาส เรายังคงเดินหน้าในการปรับปรุงให้พื้นที่ของเราเป็นสถานที่ที่น่าทำงานสำหรับบุคลากรของเราเสมอมา ซึ่งทำให้ในเดือนกรกฎาคม 2564 ธุรกิจของเราในออสเตรเลียได้รับการรับรองมาตรฐานสูงสุด WELL ระดับ Platinum จากสถาบัน International WELL Building InstituteTM จากที่เคยได้รับมาตรฐานระดับ GOLD ในปี 2560 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผน Purpose-Driven Strategy เราได้จัดทำ Culture Survey เพื่อรับฟังเสียงของพนักงานของเราและดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขา

ขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดของเรายังคงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุดในช่วงเวลาของการแพร่ระบาด สำหรับพนักงานของเรา เราเริ่มต้นด้วยการสำรวจจำนวนผู้ต้องการรับวัคซีน ซึ่งทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ให้เหมาะสมเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมอัตราการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานได้ และเพื่อให้แน่ใจว่าอาคารภายใต้การบริหารจัดการของเราปลอดภัยและมีสุขลักษณะที่ดี เราได้นำมาตรการและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ได้มาตรฐานระดับโลกมาใช้กับสินทรัพย์ของเราอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการใช้หุ่นยนต์ฉายแสงอัลตร้าไวโอเล็ตเพื่อฆ่าเชื้อในอาคารพาณิชย์ที่มีความหนาแน่นทั้งในสิงคโปร์และประเทศไทย ในส่วนของประเทศไทย พื้นที่ศูนย์การค้าของเราถูกใช้เป็นสถานที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชน และพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมสามแห่งถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่สำหรับการแยกกักตัว พักฟื้น และเป็นโรงพยาบาลสนาม

เราให้ความสำคัญในการเลือกสรรวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่จะสร้างอาคารให้ได้มาตรฐานอาคารเขียว และมาตรฐานด้านอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรที่ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพแก่ผู้คน อีกทั้งเราได้ออกนโยบายการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบของกลุ่ม ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในการจัดซื้อจัดจ้าง และเป็นการส่งต่อพันธะของเราที่มีต่อสิ่งแวดล้อมให้คู่ค้าของเรารับทราบอีกด้วย การก่อสร้างศูนย์การค้าเบอร์วู้ด บริกเวิร์ก (Burwood Brickworks) ของเรานั้นได้รับการรับรองมาตรฐาน Living Building Challenge® และเราได้ออกเอกสาร Greensheet แสดงรายการวัสดุก่อสร้างต่อสาธารณะ เป็นรายแรกของออสเตรเลีย เพื่อเป็นการเร่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในห่วงโซ่อุปทานวัสดุก่อสร้าง

แม้เราจะเผชิญช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง แต่เราเชื่อว่าความยืดหยุ่นของบุคลากรจะช่วยให้ธุรกิจของเรายังคงเดินหน้าต่อไปได้ เรามุ่งเน้นการปลูกฝังทัศนคติที่ให้ความสำคัญและใส่ใจต่อลูกค้าผ่านวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดของเรา เราสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและการเรียนรู้โดยการทำให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจ ด้วยหลักสูตรการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ที่เป็นหลักสูตรอบรมภายในเพื่อพัฒนาสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง

พื้นที่แห่งการมีส่วนร่วม (Inclusive Spaces) เป็นโครงการลงทุนที่มุ่งสร้างชุมชนที่คนสามารถมีส่วนร่วมได้มากขึ้น ผ่านการระดมความคิดด้วยรูปแบบแนวคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เกี่ยวกับการเข้าถึงพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ เราเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์สามารถส่งเสริมความยืดหยุ่นของชุมชนให้ดีขึ้นได้ โดยมุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่ที่ดี และการมีส่วนร่วม ไม่แบ่งแยก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดซึ่งมีคนจำนวนหลายพันล้านคนได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์ เราได้นำผู้คนมารวมกันเพื่อก่อให้เกิดการเชื่อมโยงทางสังคมและเพื่อสร้างความยืดหยุ่นของชุมชน ผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบและปรับแปลงให้เหมาะสม อันเป็นการช่วยส่งเสริมสุขภาพและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

ที่เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เราตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำ และเราให้ความสำคัญกับการลดการผลิตของเสียและลดจำนวนของเสียที่เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กัน จากการประเมินของธนาคารโลก มีการประมาณการว่าจากปี พ.ศ. 2559 - 2593 จะมีของเสียจากเมืองต่าง ๆ เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 70% สำหรับโครงการของเรา เราใช้แนวทางการจัดการของเสียสองชั้น ตั้งแต่การลดของเสียจากการก่อสร้าง และลดของเสียจากการดำเนินงานทั้งจากพนักงาน ลูกค้า และผู้เช่า และสำหรับการใช้น้ำอย่างมีความรับผิดชอบนั้น เราได้ติดตามปริมาณการใช้น้ำจากทุกสินทรัพย์ทั้งหมดทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นส่วนของเจ้าของที่ดิน หรือส่วนยูนิตของผู้เช่า โดยได้เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำและการรีไซเคิลให้สามารถนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างปลอดภัย

เราเชื่อว่าความหลากหลายทำให้เราใกล้ชิดกับชุมชนที่เราอยู่มากขึ้น เรารังสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของเรา และเราเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยขับเคลื่อนให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ก้าวไปข้างหน้าโดยพลังของทีมที่มีความหลากหลาย เราใช้ค่านิยมองค์กรของเราขับเคลื่อนทุกสิ่งที่เราทำ โดยถือว่าเป็นแนวทางหลักในการที่เราจะสร้างสถานที่ที่ทุกคนจะรู้สึกปลอดภัย ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และรู้สึกมีพลังที่จะเป็นตัวของตัวเองในที่ทำงาน ซึ่งการทำงานร่วมกันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น และพัฒนายิ่งขึ้นไปพร้อมกับองค์กร โดยในปีงบประมาณ 2564 นี้ เรากำหนดกรอบความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม ให้กับบุคลากร เพื่อให้เราทุกคนก้าวไปพร้อมกัน

ในการดำเนินธุรกิจของเรา เราดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งพนักงาน ผู้เช่า และชุมชน โดยเริ่มจากการให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพในการพัฒนาสินทรัพย์ อุทยานธุรกิจฟรานโบรว์ (Farnborough Business Park) ในสหราชอาณาจักร เป็นสถานที่เชิงพาณิชย์แห่งแรกในโลกที่ได้รับการจัดอันดับระดับ 3 ดาวจาก Fitwel และเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ สหราชอาณาจักร ยังมีพื้นที่สินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้รับการรับรองจาก Fitwel ด้วยเช่นกัน สำหรับโครงการเบอร์วู้ด บริกเวิร์ก (Burwood Brickworks) ในเมลเบิร์น ประกอบไปด้วยบ้านพักอาศัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบภูมิทัศน์อย่างสวยงามเต็มไปด้วยต้นไม้ พร้อมด้วยห้างสรรพสินค้า ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์การค้าที่ยั่งยืนที่สุดในโลก โดยมีฟาร์มออร์แกนิกปลอดสารเคมี ใช้ปลูกพืชอาหารกว่า 200 สายพันธุ์ในโครงการ